testimonials
testimonials
testimonials
testimonials
testimonials
testimonials
testimonials

ห้องนิทรรศการสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
(ห้อง ๙๐๒)

จัดแสดง พระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่มีต่อพสนิกรชาวไทย ประกอบด้วยโครงการตามพระราชเสาวนีย์ ได้แก่ โครงการรักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ โครงการธนาคารอาหารชุมชนและการแสดงผลิตภัณฑ์ จากศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ

โครงการรักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน
จากพระราชเสาวณีย์ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถที่ว่า"พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำเราจะเป็นป่า" ทำให้เกิดโครงการรักษ์น้ำเพื่อพระแม่ของแผ่นดิน โดยหลักการคือ อนุรักษ์ป่าต้นน้ำเพื่อคืนความชุ่มชื้นให้กับผืนดิน ทรงส่งเสริมให้ปลูกต้นไม้ ๓ อย่าง คือไม้เศรษฐกิจ ไม้ผล ไม้ฟืน ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ ๔ อย่างคือ ให้ความชุ่มชื้นกับดิน เพื่ออุปโภค บริโภค และประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ ทรงส่งเสริมให้มีการทำฝายชะลอความชุ่มชื้นเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นกับดิน รวมทั้งการทำประปาภูเขา เพื่อทำการเกษตรตามไหล่เขา ทำนาแบบขั้นบันได

โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่
เป็นโครงการที่ทำให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้โดยคนไม่ทำลายป่า ทรงส่งเสริมให้มีการเลี้ยงปลา เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผล

โครงการธนาคารอาหารชุมชน
เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้คน ชุมชน เห็นความสำคัญของป่า ร่วมกันอนุรักษ์ป่าและสัตว์ป่าให้เป็นแหล่งอาหารอย่างยั่งยืน โดยทรงส่งเสริมให้มีการปลูกต้นไผ่ ไม้ผล เพื่อเป็นแหล่งอาหารของคนและสัตว์ ปลูกพืชสมุนไพรในป่า เพื่อยารักษาโรคสำหรับคนและสัตว์

ศููนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ
- พระราชกรณียกิจที่สำคัญอย่างหนึ่งของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ คือการเสด็จพระราชดำเนินตามพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวไปทรงเยี่ยมราษฎรในทุกแห่งหน ทั่วทุกภาคของประเทศไทย พระราชกรณีกิจนี้ได้ทรงปฏิบัติติดต่อกันมานานนับเป็นระยะเวลาหลายสิบปีแล้ว จึงให้ทรงเห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงของราษฎรว่ามีความทุกข์สุขอย่างไร ที่ทรงเป็นห่วงมากก็คือความยากจนของราษฎร จึงทรงมีพระราชประสงค์จะจัดหาอาชีพให้ราษฎรทำเพื่อเพิ่มพูนรายได้ให้เพียงพอแก่การยังชีพในภาวะปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถทรงสนพระทัยในงานฝีมือพื้นบ้าน หรือศิลปกรรมพื้นบ้านที่จัดทำขึ้นโดยใช้วัสดุในท้องถิ่นมาก พระองค์จึงทรงส่งเสริมในเรื่องนี้ โดยการจัดให้มีครูออกไปฝึกสอนราษฎร เป็นการช่วยปรับปรุงคุณภาพของงานให้ดียิ่งขึ้น เมื่อราษฎรมีความชำนาญแล้วก็จะทรงรับซื้อผลงานที่ผลิตออกมาไว้ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ซึ่งงานนี้ต่อมาได้ขยายออกเป็นมูลนิธิส่งเสริมในศิลปาชีพใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๑๙ และได้ทรงจัดตั้งโรงฝึกอบรมศิลปาชีพขึ้นแห่งแรกที่พระตำหนักสวนจิตรลดา
- ในวันฉัตรมงคลปี พ.ศ. ๒๕๒๓  สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายธานินทร์ กรัยวิเชียร รองประธานกรรมการมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ สรรหาที่ดินที่ใกล้เคียงพระราชวังบางปะอิน เพื่อจัดตั้งศูนย์ศิลปาชีพอีก ทรงกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้รัฐบาลจัดการปฏิรูปที่ดินเพื่อให้ราษฎรผู้ยากไร้ได้มีที่อยู่และทำมาหากินตามอัตภาพ แปลงหนึ่งอยู่ที่ อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก อีกแปลงหนึ่งอยู่ที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรที่ดินแปลงที่อยู่ อำเภอบางไทรด้วยพระองค์เอง ซึ่งที่ดินแปลงนี้มีพื้นที่ประมาณ ๗๕๐ ไร่เศษ และทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยว่าสมควรจะสร้างศูนย์ศิลปาชีพ ณ ที่นี้ วันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๒๓ รัฐบาลได้น้อมเกล้าถวายที่ดินแปลงนี้แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๔ รอบ และรัฐบาลยังได้มีมติให้หน่วยราชการต่างๆ สนับสนุนโครงการต่างๆของศิลปาชีพ บางไทรฯ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถทรงจัดตั้งขึ้นโดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดย สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเป็นผู้รับผิดชอบในด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยและประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในการจัดฝึกอบรมศิลปาชีพเรื่อยมา ต่อมามีการซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก ๒๐๐ ไร่เศษ รวมเป็นเนื้อที่ของศูนย์ฯ ทั้งหมดเกือบ ๑,๐๐๐ ไร่ในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๒๗